ความรู้เบื้องต้นในการทำเมโสแฟต

สำหรับสาวๆที่อยากสวยในชาตินี้ ไม่ต้องรอให้ถึงชาติหน้าอีกต่อไปเพราะปัจจุนนี้การศัลยกรรมแพทย์มีเทคโนโลยีก้าวไกลไปมากกว่าเมื่อสมัยก่อนเยอะ มีการใช้วิธีการใหม่ๆเข้ามาให้คนที่รักสวยรักงามได้ใช้บริการกันอยู่ทั่วถึง คนที่มีรูปร่างอวบอ้วนเพียงแค่เข้าครอสลดไขมันไม่กี่สัปดาห์รูปร่างก็ออกมาสวยเชฟราวกับว่าเสกขึ้นมา
แต่การลดไขมันแค่เพียงรูปร่างอาจจะไม่เพียงพอสำหรับบางคน จึงต้องอาศัยเทคโนโลยีใหม่อย่าง เมโสแฟต เพื่อเข้ามาปรับลดไขมันบริเวณแก้ม ส่วนเกินบริเวณคาง เพื่อให้รูปหน้าของสาวๆได้ออกมาเรียวเล็กเหมือนที่เราชมกันในละครเกาหลีที่มีบล็อกหน้ารูปแบบเดียวกันหมดจนอดอิจฉาไม่ได้เลยทีเดียว ข่าวดีคือเราก็สามารถที่จะมีรูปร่างหรือใบหน้าเรียวเล็กได้เช่นเดียวกัน เพราะมีคลีนิคเฉพาะทางที่มีครอสลดไขมันโดยใช้เทคโนโลยี เมโสแฟต เกิดขึ้นแล้วในประเทศไทย เรามาทำความรู้จักกันว่าเมโสแฟตคืออะไรและมีข้อดีอย่างไร
เมโสแฟต คือ การกำจัดไขมันส่วนเกินโดยใช้ตัวยาฉีดเข้าไปสลายไขมันบริเวณที่มีมันสะสม ไม่เพียงแต่ใบหน้าเท่านั้น เรายังสามารถทำได้เกือบทั้งร่างกายในบริเวณที่มีไขมันสะสมอย่างเช่น ต้นแขน ต้นขา สะโพก พุง หน้าท้อง เป็นต้น สารหลักๆที่มีผลต่อการสลายไขมันที่มีอยู่ในตัวยาเช่น artichoke extract สังเคราะห์ coenzyme จะช่วยเรื่องของบุคคลที่มีเซลลูไลท์ หรือมีไขมันส่วยเกินเฉพาะจุด L-carnitine เป็นที่รู้จักกันดีเพราะเป็นตัวที่คนออกกำลังกายก็ใช้เป็นอาหารเสริมในการดึงไขมันมาใช้เป็นพลังงาน หรือที่เราเรียกกันว่า fat brun นั่นเอง ส่วนระยะเวลาในการทำควรห่างกันไม่เกิน 2 อาทิตย์ต่อครั้งจึงจะได้ผลดีที่สุด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับตัวบุคคลนั้นด้วยว่ามีปริมาณไขมันเพียงใด ในกรณีที่มีชั้นไขมันหนามากการฉีดครั้งแรกๆอาจไม่เห็นผล ต้องได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่องจึงจะได้ผลดี
ผลข้างเคียงหลังจากทำเมโสแฟตก็มีอยู่บ้าง เช่น อาการการฟกช้ำหลังจากฉีด ซึ่งโดยส่วนมากแพทย์จะแนะนำว่าหลังจากฉีดควรจะปฏิบัติตัวอย่างไรจึงจะทำให้แผลฟกช้ำนั้นหายไวมากยิ่งขึ้น
ข้อแตกต่างระหว่างการดูดไขมันกับการทำเมโสแฟตคือ สำหรับคนที่ต้องการทำศัลยกรรมด้วยการดูดไขมันควรต้องระวังเป็นไปได้ควรศึกษาให้ดีและเลือกคลินิกที่มีความเชียวชาญเป็นอย่างมาก ก่อนทำการรักษาแพทย์จะมีการตรวจร่างกายว่าเราแข็งแรงดีหรือไม่เพราะต้องใช้เข็มที่มีขนาดใหญ่ในการดูดไขมันออกมาจากร่างกายทำให้หลังทำคนไข้มักเกิดอาการอ่อนเพลียจากการทำวิธีนี้ แต่สำหรับการทำเมโสแฟตคนทั่วไปสามารถทำได้เลยไม่ต้องมีการตรวจสุขภาพโดยละเอียดแต่อย่างใด