รูปแบบของประกันสุขภาพเหมาจ่ายเป็นอย่าไร

ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่าในยุคที่โลกหมนุรอบตัวเราเร็วกว่าที่คิดเอาไว้ คนรุ่นใหม่ก็มักมาพร้อมกับคอนเซปท์ Work Hard Play Harder ด้วย เมื่อทำงานหนักพอได้พักก็อยากจะเต็มที่ การทำประกันสุขภาพเหมาจ่ายจึงเป็นผู้ช่วยที่ดีที่จะมอบความคุ้มค่าให้ได้ เพราะเมื่อร่างกายไม่เคยมีวันได้พักผ่อนแบบเต็มอิ่ม สุดท้ายแล้วสุขภาพจึงทรุดโทรม โรคภัยก็ถามหา ไปเช็คแต่ละครั้งค่ารักษาก็ไม่ใช่ถูกเลย ถ้าบางทีเป็นหนักต้องให้แอดมิดอีกคืนสองคืน เผลอๆ ค่าใช้จ่ายแซงเงินเดือนเอาได้ง่ายๆ

ประกันสุขภาพเหมาจ่ายคืออะไร โดยทั่วไปแล้วคุณสามารถเลือกทำประกันสุขภาพได้ 2 รูปแบบ อย่างแรกคือการทำประกันสุขภาพเหมาจ่าย เข้าโรงพยาบาล ตรวจเจอโรคไหนที่ครอบคลุมอยู่ในกรมธรรม์ก็คุ้มครอง ส่วนอย่างที่สองจะเป็นการเลือกซื้อสัญญาแนบท้ายประกันชีวิต ซึ่งสามารถแยกซื้อตามรูปแบบความคุ้มครอง ตามโรคที่ต้องการเฝ้าระวังได้ จึงทำให้เบี้ยประกันของแบบแยกซื้อนั้นถูกกว่า ซึ่งจริงๆ ถ้าเปรียบเทียบกับประกันแบบเหมาจ่าย ที่จะจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลให้ผู้เอาประกันในกรณีเจ็บป่วย ตามทุนประกันที่ได้เลือกแผนประกันไว้ ครอบคลุมทั้งค่ารักษาพยาบาล OPD, IPD จึงทำให้มีเบี้ยประกันสูงกว่า

สำหรับประกันสุขภาพเหมาจ่าย นอกเหนือจากความคุ้มครองในรูปแบบของการทำเรื่องเบิกค่ารักษาพยาบาลแบบเป็นครั้งๆ ไปแล้ว ยังมีรูปแบบความคุ้มครองที่เรียกว่า “เจอ จ่าย จบ” อีกด้วย เป็นการทำเรื่องเบิกแบบครั้งเดียวตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในกรมธรรม์แล้วรับเงินก้อนไปรักษาเองได้เลย เพื่อความสะดวกและอุ่นใจมากกว่าเดิม ตัวอย่างเช่น คุณทำประกันโรคมะเร็งแบบเหมาะจ่ายเจอจ่ายจบไว้ที่ 2,000,000 บาท วันใดวันหนึ่งขึ้นมาตรวจเจอโรคนั้น ทางประกันก็จะจ่ายเช็คให้คุณทันที 2 ล้าน เพื่อให้คุณไปจัดสรรค่ารักษาเอาเอง

แล้วประกันสุขภาพเหมาจ่ายดีกว่าไหม ด้วยราคาที่สูงขึ้นของค่าเบี้ยประกันที่เสียไป แน่นอนว่าคุณก็ต้องคาดหวังสิ่งที่ดีกว่าอยู่แล้ว และคงจะอยากรู้ว่า “ประกันแบบเหมาจ่าย” นั้น ดีกว่าประกันแบบซื้อแยกความคุ้มครองอย่างไร เราสรุปข้อดีมาให้คุณแล้ว

  • บริษัทที่รับประกันมีวงเงินเหมาจ่ายค่ารักษาต่อปีให้ ดูง่ายว่าใช้ไปเท่าไหร่และยังเหลือวงเงินอยู่อีกเท่าไหร่
  • ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลทั้งผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยใน บางที่จะรวมค่าห้องให้คุณสามารถเคลมได้จากวงเงินนี้เลย
  • แผนความคุ้มครองไม่ซับซ้อน เพียงแค่ยังอยู่ในวงเงินความคุ้มครองก็สามารถเคลมได้ จึงเคลมได้ง่ายและเร็วกว่า
  • มีรายการคุ้มครองหลายรายการ มากกว่าแบบแยกค่ารักษา เช่น ค่ารักษาพยาบาลฉุกเฉินเนื่องจากอุบัติเหตุ, ค่ารังสีวิทยา, ค่าห้อง เป็นต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละบริษัทประกันด้วย